ประเสริฐฟาร์ม ฟาร์มกุ้งขาวระบบปิด เลี้ยงกุ้งได้ดี

 1358679883

การทำฟาร์มกุ้ง เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หากทำแล้วประสบความสำเร็จ จะสามารถสร้างรายได้อย่างงดงามให้กับผู้เลี้ยง แต่ก่อนที่ผู้เลี้ยงจะลงทุนดำเนินธุรกิจในฟาร์มกุ้ง ควรจะต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกุ้ง หรือประสบการณ์ในการเลี้ยงกุ้งพอสมควร และสิ่งสำคัญต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ใน ระหว่างการเลี้ยง รวมถึงมองเห็นสาเหตุและวิธีแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้ผลผลิตได้รับผลเสียหาย

คุณประเสริฐ อนุเวช เป็นเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตราดอีกหนึ่งคนที่ให้ความสนใจ ปรับเปลี่ยนอาชีพจากเกษตรกรรม ทำไร่ ทำนา มาประกอบธุรกิจทำฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้ง อยู่ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เป็นระยะเวลากว่า 20 ปี

img2013418113039

คุณประเสริฐ เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะหันมาเลี้ยงกุ้งขาวแบบระบบปิด ตนเคยทำสวนผลไม้และทำสวนยาง แต่ด้วยราคาผลไม้ขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน บางปีก็ขาดทุน พอใน ปี 2533 ได้เข้ามาเป็นลูกค้าสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากธนาคาร จึงเปลี่ยนมาทำฟาร์มกุ้งกุลาดำ

“เลี้ยงมาได้ประมาณ 10 ปี ก็ต้องประสบปัญหา กุ้งโตช้า ตายง่าย เลี้ยงยาก อีกทั้งสถานที่เพาะเลี้ยงเปิดทำให้เกิดโรคง่าย จึงหยุดเลี้ยงและหันมาเลี้ยงกุ้งขาวระบบปิดในพื้นที่หมู่บ้านรำภูลาย ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด แทน เนื่องจากวิธีการเลี้ยงและระยะเวลาเลี้ยงได้ผลผลิตที่ไวกว่า อีกทั้งตลาดมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญเราสามารถควบคุมโรคที่มากับน้ำภายนอกได้เป็นอย่างดี เพราะระบบปิดนี้จะไม่ทิ้งน้ำ แต่จะนำกลับมาบำบัดด้วยสาร บีเคแอล เติมแร่ธาตุที่กุ้งจะสามารถนำไปใช้ เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียมไบคาร์โบเนต ซึ่งสารเหล่านี้จะเติมลงไปได้ เราจะต้องทำการตรวจเช็กด้วยเครื่องมือวัดคุณภาพน้ำ เพื่อจะได้เติมสารให้ถูกต้องและสามารถนำกลับมาใช้หมุนเวียนภายในบ่อใช้เพาะ เลี้ยงได้ถึง 3 ครั้ง ก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำ”

1358679867

ระยะเวลา 5 ปี ที่หันมาทำฟาร์มกุ้งขาวระบบปิด คุณประเสริฐ สามารถขยายพื้นที่บ่อเลี้ยงได้มากถึง 20 บ่อ โดยแต่ละบ่อกินเนื้อที่ 5-6 ไร่ และนอกจากบ่อเลี้ยงแล้ว ยังมีบ่อพักน้ำไว้สำหรับกักเก็บน้ำทะเลที่หนุนในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ซึ่งในช่วงระยะเวลา 1-4 เดือนนี้ คุณประเสริฐ จะดึงน้ำมาเก็บไว้ในบ่อพัก เพื่อสำหรับใช้เลี้ยงกุ้งกว่า 30 ไร่ ซึ่งรวมแล้วเนื้อที่ทั้งหมดภายในฟาร์มมีมากถึง 200 ไร่

บ่อเพาะเลี้ยง ส่วนใหญ่ คุณประเสริฐ จะสร้างกินเนื้อที่ ประมาณ 5 ไร่ โดยแต่ละบ่อจะมีพลาสติกที่มีความหนาพอสมควรคลุมบริเวณขอบบ่อเพื่อป้องกันการ พังทลายของดินในช่วงที่เปลี่ยนถ่ายน้ำเข้าและออก ส่วนด้านล่างบ่อจะเป็นพื้นดินตามธรรมชาติ

ขนาดของบ่อเพาะเลี้ยง ความสูงจะอยู่ที่ 1.80-2.00 เมตร ส่วนความกว้างของบ่อจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ แต่ไม่ควรเกิน 5-6 ไร่ เนื่องจากการจัดการและการควบคุมจะเป็นไปได้ยากและไม่ทั่วถึง

สำหรับคุณภาพน้ำในบ่อเพาะเลี้ยง ความเค็มควรจะอยู่ ระหว่าง 15-17 ppm. ซึ่งต้องวัดความเค็มทุกสัปดาห์ มีความเป็นกรด-ด่าง (ค่า pH) ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยในช่วงเช้า ค่า pH ของน้ำในบ่อ ควรอยู่ที่ 7.3-7.5 และในช่วงเย็น ควรอยู่ที่ 8.5 มีแร่ธาตุในอัตราส่วนพอดี

การตรวจเช็กแร่ธาตุของน้ำในบ่อเลี้ยง คุณประเสริฐ จะทำทุก 3-5 วัน ส่วนของค่าออกซิเจนในน้ำ จะวัดทุกวันในช่วงเช้าตรู่ จนกว่าจะจับขาย ซึ่งจะใช้ระยะเวลา ประมาณ 90-120 วัน

คุณประเสริฐ ยังบอกถึงหัวใจหลักในการเลี้ยงกุ้งว่า จะเลี้ยงกุ้งได้ ต้องเลี้ยงน้ำให้ได้ สภาพน้ำและการบริหารจัดการน้ำจึงสำคัญยิ่งกว่าพันธุ์กุ้ง เพราะถึงแม้จะมีพันธุ์กุ้งที่แข็งแรงและมีคุณภาพมากแค่ไหน แต่หากดูแลน้ำได้ไม่ดีก็ไม่เกิดผล เพราะฉะนั้นเราจึงต้องหมั่นดูแลบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับพันธุ์กุ้งแต่ ละชนิด

“นอกจากการดูแลน้ำแล้ว การหาข้อมูลมาประกอบการเลี้ยงก็ต้องสามารถนำแหล่งข้อมูล วิชาความรู้มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม เพราะทุกๆ สิ่ง โดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้งต้องอาศัยประสบการณ์ การสังเกต เรียนรู้และรู้จักนำวิชาความรู้มาพลิกแพลงให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ สภาพน้ำ และสภาพอากาศ ต้องรู้คุณสมบัติของดินและน้ำว่าเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือ ความผิดพลาดของอดีตสามารถนำมาเป็นครูคอยสอน เพราะวงการการเลี้ยงกุ้งหลายคนที่ล้มเหลว สามารถนำความล้มเหลวนั้นมาเป็นบทเรียน และประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน” คุณประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย

การทำฟาร์มกุ้ง ถ้าเลี้ยงแล้วไม่ตาย ก็ไม่เก่ง ไม่มีประสบการณ์ หากท่านใดสนใจศึกษาเรียนรู้การเลี้ยงกุ้งขาว ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณประเสริฐ อนุเวช บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด

ใส่ความเห็น