วันนี้จะแนะนำแนวทางทำธุรกิจที่น่าสนใจ หลายคนเห็นธุรกิจนี้แล้วอาจมองว่าจะไปได้เหรอแต่ถ้าลองศึกษาให้ดี มองดูจากเหตุและผล ธุรกิจที่ว่านี้คือ การขายสินค้าราคาเดียว หรือที่เราเห็นอยู่ทั่วไปสินค้าทุกอย่าง 10 บาท หรือทุกอย่าง 20 บาท นั่นเอง
ธุรกิจนี้ต้องเน้นบริหารธุรกิจด้วยความซื่อตรงกับลูกค้า โดยคำนึงถึงหัวใจของผู้บริโภคที่ทุกคนล้วนต้องการสินค้าที่ดีในราคาที่เหมาะสม จึงให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพสินค้าเป็นสำคัญ และเข้าใจความต้องการ
ปัจจุบันนี้ มีสินค้าแนวนี้อยู่กว่า 10,000 รายการ โดยมีทั้งแบบสินค้ากลุ่ม พลาสติก, เซรามิก-แก้ว, เครื่องครัว, เครื่องเขียน, เครื่องมือช่าง, กิ๊ฟช็อป, ของเล่นเด็ก, ของใช้ทั่วไป เป็นต้น ด้วยความหลากหลายของสินค้า ด้วยราคาที่ไม่แพง มีทุกอย่าง ทำให้ผู้คนมักจะแวะเดินชมเลือกหาซื้อสินค้าอยู่เสมอ ถ้าวางขายได้ทำเลที่มีคนเยอะๆจะดีมาก
ประเทศไทยเรา มีตลาดนัดกันทุกมุม ทุกซอกซอย ตลาดนัดหลายๆที่ มีการค้าขายกันคึกคัก เป็นเพราะคนไทยเราทุกวันนี้ มัวแต่เสียเวลากับการเดินทางไปทำงาน จนเย็นย่ำ ถึงจะกลับมาถึงบ้าน ถ้ายังกลับมาเตรียมอาหารให้กับสมาชิกในครอบครัวอีก ก็คงจะหมดแรงกันไป ดังนั้น แม่บ้านก็มักจะแวะตลาดนัดเพื่อซื้ออาหารสำเร็จรูปติดไม้ ติดมือกลับบ้าน รวมถึงแวะซื้อสินค้าตลาดนัด บรรดาสินค้าราคาเดียว ประเภททุกอย่าง 10 บาท หรือ 20 บาท ที่มีผู้ขายนำมาสินค้าหลากหลายประเภท มาจัดวางขายกันในราคา 10-20 บาท เป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ภายในบ้าน รวมถึงกิ๊ฟท์ชอปเล็กๆ น้อย ๆ บางทีคุณแม่จูงคุณลูกมาเดินเที่ยวตลาดนัด ก็มักจะได้สินค้าราคาเดียวเหล่านี้ ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนขายของในตลาดนัด ก็ใช้เงินทุนไม่มากเท่าไหร่ เริ่มต้นเพียง 20,000 บาท ก็จะได้สินค้าหลายร้อยประเภท เป็นของกระจุกกระจิก แต่ตรงใจลูกค้า ซึ่งบางทีการมาเดินตลาดนัด ก็ไม่ได้มาหาซื้อของประเภทนี้ แต่สะดุดตา ที่ราคาสินค้า 10 บาท 20 บาท นี่ล่ะ จึงทำให้ธุรกิจสินค้าราคาเดียวเริ่มขยายวงกว้าง ครอบคลุมหลายๆ จังหวัด ทั่วประเทศ เพียงแค่ท่านหาแหล่งซื้อของจากโรงงานได้โดยตรง มีรถกระบะที่สามารถขนของได้ สั่งซื้อมาทีละมากๆก็จะได้ราคาพิเศษอีก เท่านี้คุณก็จะขายสินค้าได้สบาย และข้อดีที่สำคัญคือสินค้าเหล่านี้ไม่บูดไม่เน่า ขายไม่หมดก็ไม่เสียไม่ขาดทุน