วันนี้ขอเสนอแนะ อาชีพเกษตรกรรม ที่เราสามารถทำเป็นงานอดิเรกได้อย่างสบายที่บ้านโดยที่ไม่รบกวนงานประจำของเราเลย การทำอาชีพเสริมนั้นสิ่งสำคัญมีอยู่ 3 ประการด้วยกันคือ อาชีพที่เราทำนั้นจะต้องไม่กระทบต่องานประจำซึ่งเป็นรายได้หลักของเรา อาชีพเสริมนั้นจะต้องทำเงินให้กับเราได้ด้วยเช่นกันและอย่างที่สามนั้นก็คือเราต้องรักและสนใจในอาชีพเสริมนั้น ๆด้วยเพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างอาชีพเสริมให้กลายเป็นอาชีพหลักในอนาคต
ดังนั้นอาชีพเสริมที่จะยกมาให้ลองพิจารณานั้นเป็นอาชีพเสริมที่เกี่ยวกับเกษตรกร แต่จะไม่กระทบการทำงานประจำ คือการเลี้ยงกุ้งเคยร์ฟิชในตู้กระจกเพื่อบริโภคและเพื่อความสวยงาม และเมื่อเลี้ยงเพื่อบริโภค และเพื่อสวยงามแน่นอนว่าย่อมขายได้และเป็นเงินเป็นทองแน่นอน
การเลี้ยงกุ้งเคยร์ฟิชนั้นตู้กระจก
การเลี้ยงกุ้งเคยร์ฟิช นั้นมีสิ่งสำคัญอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือ เราต้องเลียนแบบธรรมชาติให้เหมือนที่สุด เพราะกุ้งเป็นสัตว์ที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมรอบข้างอย่างมาก และกุ้งเกือบทุกสายพันธุ์จะต้องลอกคราบซึ่งเป็นช่วงที่กุ้งอ่อนแอมากที่สุดเราควรจะใส่ใจในเรื่องของความสะอาดและควรหาสิ่งของที่พอจะเป็นของหลบซ่อนให้กับกุ้งเคยร์ฟิชด้วย
ตู้กระจกที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงกุ้งเคยร์ฟิชนั้นจะมีขนาด 24 นิ้ว หมายถึง ตู้ที่มีขนาด 24 x 12 x 12 นิ้ว และตู้ 36 นิ้ว หมายถึง 36 x 18 x 18 นิ้ว ซึ่งตู้ 2 ขนาดนี้ จะเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชอย่างมากสุดก็เพียง 2 ตัวหรือ 1 ตัวต่อตู้เท่านั้น ภายในตู้เราควรหากหินกรวดมารองพื้นด้วยซึ่งหันกรวดเหล่านี้จะมีประโยชน์กับกุ้งเครย์ฟิชหลายอย่างเลย คือ กุ้งสามารถที่จะขุดเพื่อหลบซ่อนตัวมันเองได้ ทำให้กุ้งไม่ตื่นตกใจง่าย และสามารถปรับตัวตามสิ่งแวดล้อมได้ รวมทั้งยังช่วยซับตะกอนและเศษอาหารต่าง ๆได้อีกด้วย หินที่ใช้ควรเป็นหินสีเข้มโดยเฉพาะสีดำซึ่งจะช่วยให้กุ้งมีสีสันมากยิ่งขึ้น
น้ำก็มีส่วนสำคัญเราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอโดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำโดยการปล่อยน้ำดีไล่น้ำเสียไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบเพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำไว้ ถ้าอุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงเร็วกุ้งอาจจะช็อคได้
ควรหมั่นที่จะเติมอากาศให้กับตู้กระจกเสมอเพราะว่ากุ้งเครย์ฟิชเป็นกุ้งที่ต้องการอากาศสูงมากกว่าสัตว์น้ำชนิดอื่นส่วนเรื่องอาหารนั้นกุ้งเครย์ฟิชจะกินได้ทั้งพืชและสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆซึ่งเราก็ควรจะใช้สิ่งที่ไม่มีการเจือปนของสารเคมีด้วย
การตลาดของกุ้งเครย์ฟิชจะอยู่กับตลาดกุ้งสี กุ้งสวยงาม และร้านอาหารหรูๆ ราคาก็ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 1000 บาท เลยทีเดียวใครสนใจก็ลองจัดหาลงทุนมาเลี้ยงกันดู
